หมอ วร วรรณ รา มา

  1. พญ. ทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร|โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  2. บี วรรณิศา เปิดใจหลังโบกมือลาวงการไปรักษาลูกสาวหมดเงินกว่าหลายสิบล้าน

พญ. ทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร ความชำนาญการ สูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา, เวชศาสตร์การเจริญพันธ์ สูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา, การผ่าตัดด้วยกล้อง ภาษา อังกฤษ, ไทย คุณวุฒิ ปริญญาบัตรและสถาบันการศึกษา - แพทยศาสตรบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2539 วุฒิบัตร - สาขาสูติศาตร์-นรีเวชวิทยา, ประเทศไทย, 2545 - อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, ประเทศไทย, 2548 การศึกษาหลังปริญญา - เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, 2545-2547 แขนงที่สนใจเป็นพิเศษ - Gynecologic Endoscopy, Infertility, Pediatrics & Adolescent Gynecology

พญ. ทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร|โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

พ ญ วร วรรณ ลั พ ธะ ลัก ษ์ รา มา

© สนับสนุนโดย EJAN ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร! เมื่ออดีตนักแสดงนางเอกสาวยุคภาพยนตร์รุ่งเรืองอย่าง บี วรรณิศา ล่าสุดได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ หลังเผยเส้นทางชีวิตต้องโบกมือลาจากวงการ เนื่องจากลูกสาวป่วยด้วยโรคตับแข็งตั้งแต่ยังเป็นทารก เสียค่ารักษาพยาบาลไปหลายสิบล้าน อีกทั้งเพิ่งเคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ ที่พลัดพรากกันนานกว่า 50 ปี โดย บี วรรณิศา ก็ได้เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องต่างๆดังนี้ "สถานการณ์ โควิด เป็นยังไงบ้าง? บี: เล่นเอาจิตตกนะคะ คือครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่ามันรุนแรงมาก ไม่ใช่แค่ประเทศเราที่เดียว มันไปทั่วโลก จิตตกถึงขั้นไหน? บี: ระแวงเลย พี่ไม่ออกจากบ้าน 4 เดือนแล้ว มันค่อนข้างผวานิดนึงพอได้ยินใครไอ เราก็จะกลัวแล้ว ต้องพกเจลแอลกอฮอร์ ใส่หน้ากาก 2 ชั้นตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน ด้วยอะไรหลายๆ อย่างในครอบครัวที่เราจะต้องดูแล เพราะฉะนั้นเราต้องเซฟตัวเองให้แข็งแรง ให้ไม่พลาดตรงจุดไหนเลย ให้พลาดน้อยที่สุด ไบรอัน: ผมก็เป็นครับ ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่บ้านอย่างเดียวเลย พี่บีกลับมารับงานในวงการบันเทิงด้วย? บี: ใช่ค่ะ พี่บีกลับมาเล่นละคร หลังจากที่ลูกเรียนจบแล้วทั้ง 2 คน เรื่องแรกฉายจบไปแล้ว เรื่องที่สองกำลังฉายอยู่ พอกลับมาก็มาเจอสถานการณ์โควิด รุ่นแรก รุ่นสอง รุ่นสาม มันก็ถ่ายไป หยุดไป ครอบครัวมีการปรับตัวยังไงบ้าง?

บี: เขาจะพยายามเลี้ยงน้องให้โตที่สุด ให้น้ำหนักได้เยอะที่สุด ระหว่างที่เราทำการรักษามีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้าง? บี: คือเรื่องที่ลูกไม่กิน ทำยังไงก็กินไม่ได้ กล้ามเนื้อมันก็ลีบลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่น้ำหนักไม่ขึ้น หรือร่างกายไม่เจริญเติบโตได้เร็วเท่าที่หมอต้องการ โอกาสมันก็เสี่ยงมากขึ้น เพราะตับพ่อก็ใส่ไม่ได้ เพราะมันต้องวัดไซส์ จนน้องอายุ 7 เดือน จาก3เดือน น้องอยู่ไม่ไหวแล้ว คือน้องเหลืองจนเขียวแล้ว สภาพทุกอย่างคือไม่ไหวแล้ว หมอบอกว่าถ้าไม่เปลี่ยนภายใน 2 วันน้องก็เสีย ก็คือต้องตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยว่าผ่า สามีก็ต้องผ่า มันจะใหญ่หน่อยก็ต้องยัดมันเข้าไป วินาทีนั้นรู้สึกยังไงบ้าง? บี: ตอนแรกก็ดีใจว่าลูกจะได้เปลี่ยนแล้ว ลูกจะหายแล้ว พอมาวันที่จะถึงจริงๆ พี่ไมค์ สามี เขาโทรไปหาคุณพ่อ คุณแม่เขา เหมือนบอกว่าพรุ่งนี้จะต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้ว พี่ไมค์เขาบอกบีไม่ต้องห่วง พี่ใช้ชีวิตมามากพอแล้ว การตัดอวัยวะส่วนหนึ่งของพี่ไมค์มา มันอันตรายมาก พี่ไมค์เองก็อาจจะเสียชีวิตได้เหมือนกัน? บี: อันตรายมาก ตอนที่เขาคุย เขาก็จะบอกตลอด รู้ไหมมันเคยมีนะ ที่พ่อหรือแม่แบ่งตับให้ลูก แล้วหลังจากนั้นเสียชีวิต เพราะมันจะโดนตัดกล้ามเนื้อ เพื่อที่จะเปิดออก มันเหมือนเหตุการณ์ที่เราต้องเลือกระหว่างปล่อยลูกไป หรือจะลองเสี่ยงดู?

  1. แท็งก์ความคิด : งานเพลงหมอวราห์
  2. Hot! ไอเดียแต่ง "กระโปรงยีนส์สั้น" ชิคๆ ใส่กับอะไรดี!? - Ladyissue เว็บรีวิวเครื่องสำอาง ชุมชนผู้หญิง ฮาวทูแต่งหน้า อัพเดทแบรนด์เนม เทรนด์แฟชั่นจากดีไซเนอร์ชื่อดัง
  3. สี ผม บ ลอน แดง
  4. วิ่ง ตอน เช้า กับ วิ่ง ตอน เย็น

บี: ที่เกือบช็อก เพราะว่าหลังจากผ่าตัดครั้งแรกมันไม่สำเร็จ ของเสียมันออกไม่ได้ มันก็คลั่งอยู่ในท้อง ท้องน้องบวมมาก หมอเลยเจาะท้อง เจาะของเสียออก ปรากฏว่าพวกแคลเซียม วิตามิน มันออกไปด้วย ลูกพี่บีก็ตาค้างมองข้างบน มองแบบจะไปแล้ว. เกร็งไปหมดแล้ว คุณหมอเลยตัดสินใจเย็บปิดแผล มันจะบวมก็ให้มันบวม ให้หาที่ไปรักษาตัวให้เร็วที่สุด พอรู้ว่าที่สแตมฟอร์ดเขารักษาได้ เราก็จองเดี๋ยวนั้นเลย ตัดสินใจหอบรถจากโรงพยาบาลไปขึ้นเครื่อง 4 คน พ่อ แม่ ลูก เสื้อผ้าชุดเดียว ไม่มีได้เตรียม การเดินทางต้องดูแลขนาดไหน? บี: ต้องมีคุณหมอไปด้วย เขาบังคับเลย จะต้องมีคุณหมอ จะต้องซื้อถังอ๊อกซิเจน ซื้อตั๋วที่นั่งสำหรับถังอ๊อกซิเจน 1 ที่ ต้องมีคุณหมอประกบ ไม่งั้นสายการบินเขาไม่รับ ไปถึงสนาบินซานฟราน เราก็ไม่ได้ลงจากเครื่องเลย รถโรงพยาบาลที่นู่น เขาก็มารับ เจ้าหน้าที่ก็มาอุ้มลูกเรา คือไม่ได้ผ่าน ตม. ไม่ได้เห็นอะไรเลย ช่วงนั้นมันบีบหัวใจขนาดไหน? บี: มันเหมือนจะตายได้เลย คุณหมอบอกว่าถ้าไม่ทำ ลูกจะอยู่ได้ไม่ถึงปี มันทรุดกองลงไปตรงนั้นเลย แล้วก็มันโทษตัวเอง สาเหตุเป็นเพราะเราไหม เราไม่ดีไหม ช่วงท้องเรากินอะไรไม่ดีไหม เราทำอะไร ทำไมลูกเราเป็นแบบนี้ จนสุดท้ายพอรู้ว่าไม่มีสาเหตุ เราก็เริ่มเบาใจ สามีเขาเป็นคนที่ดึงสติ ถ้าไม่มีเขาตอนนั้นพี่คงบ้า สิ่งที่น้องเป็นคือ น้องเป็นตับแข็ง แล้วต้องมีการเปลี่ยนตับ แล้วตับผู้ใหญ่อย่างพวกเราอวัยวะชิ้นก็จะใหญ่กว่า แล้วของน้องตัวเล็กนิดเดียว แล้วเราเปลี่ยนกันยังไง?

บี วรรณิศา เปิดใจหลังโบกมือลาวงการไปรักษาลูกสาวหมดเงินกว่าหลายสิบล้าน

วันที่ 10 ธ. ค. 2556 เวลา 09:20 น. โดย... วรธาร / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน ตอนแรกที่พบคุณหมอรู้สึกคุ้นหน้ามาก แล้วก็ค่อยๆ นึกออก ที่แท้ "คุณหมอฟ้า" พญ.

หม่อมเจ้าสนิทประยูรศักดิ์ รังสิต หม่อมเจ้า ชั้น 5 หม่อมเจ้าสนิทประยูรศักดิ์ รังสิต (ด้านหน้าคือ หม่อมเจ้าสมาคม กิติยากร) หม่อม หม่อมอามีเลีย รังสิต ณ อยุธยา หม่อมนาลินี รังสิต ณ อยุธยา พระบุตร หม่อมราชวงศ์พงษ์สนิธ รังสิต หม่อมราชวงศ์จารุวรรณ รังสิต หม่อมราชวงศ์วลัยลักษณ์ รังสิต ราชวงศ์ จักรี พระบิดา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระมารดา หม่อมเอลีซาเบท รังสิต ณ อยุธยา ประสูติ 19 สิงหาคม พ. ศ. 2460 สิ้นชีพิตักษัย 10 กันยายน พ. 2538 (78 ปี) หม่อมเจ้าสนิทประยูรศักดิ์ รังสิต (19 สิงหาคม พ. 2460 – 10 กันยายน พ. 2538) เป็นพระโอรสใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ประสูติแต่ หม่อมเอลีซาเบท รังสิต ณ อยุธยา มีโสทรเชษฐาและโสทรขนิษฐา 2 องค์ คือ หม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต เสกสมรสกับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต จารุลักษณ์กัลยาณี บูรณะนนท์ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับเฉลิม บูรณะนนท์ หม่อมเจ้าสนิทประยูรศักดิ์ทรงศึกษาที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อปี พ. 2468 เลขประจำตัว ท. 2978 และเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ DSA หม่อมเจ้าสนิทประยูรศักดิ์ เสกสมรสกับ หม่อมอามีเลีย (สกุลเดิม มอนตอลติ) และหม่อมนาลินี (สกุลเดิม สุขนิล) มีโอรสธิดา 3 คน ได้แก่ หม่อมราชวงศ์พงษ์สนิธ รังสิต สมรสกับ สมใจ เลิศสุวรรณ หม่อมราชวงศ์จารุวรรณ รังสิต สมรสกับ อเล็กซานเดอร์ ซูรซก อเล็กซานเดอร์ คิม ซูรซก แคเธอรีน ไอช่า ซูรซก หม่อมราชวงศ์วลัยลักษณ์ รังสิต หม่อมเจ้าสนิทประยูรศักดิ์ รังสิต สิ้นชีพตักษัยเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.

บี: ก็ออกจากห้อง icu ก็ย้ายเข้าห้องธรรมดาอีกประมาณเดือนกว่าเกือบสองเดือน ช่วงนั้นพี่บีก็กินนอนอยู่โรงพยาบาล ก็มีพี่ไมค์ที่พาน้องกลับบ้าน ณ ตอนนี้น้องเองยังรักษาตัวอยู่ไหม? บี: ยังรักษาค่ะ ตอนนี้น้อง 25 แล้ว ยังต้องเจาะเลือด อย่างเมื่อก่อนต้องเจาะเลือดทุกๆ 3 วัน ทุกๆ อาทิตย์ ทุกๆ เดือน ทุกๆ 3 เดือน เขาจะไล่ไปเรื่อยๆ จน ณ ปัจจุบัน เมื่อเดือนที่แล้วที่คุณหมอบอกว่าเราห่างกัน 6 เดือนได้แล้วนะ แต่ยังต้องทานยากดภูมต้านทาน นั่นก็คืออีกสาเหตุนึงที่ทำไมครอบครัวพี่บีใส่หน้ากากตลอด เพราะว่าต้องระวังโรส ค่ารักษาพยาบาลหมดไปเท่าไหร่? บี: มันเป็นจำนวนสูงมากเลย ถามพี่ บี ให้หมดตัวเลย จะกี่ครั้งก็ได้ แต่ได้ลูกกลับมาพี่ บี ก็ยอม พี่ บีไม่อยากตีราคาลูกด้วยตัวเลขว่ามันคือเท่าไหร่ เพราะว่าที่พี่บีได้เขากลับมานั่นคือมูลค่ามากกว่าเยอะ ล่าสุดเพิ่งรู้เรื่องคุณพ่อ ว่าเป็นคุณพ่อแท้ๆ?

บี: ครอบครัวพี่บีไม่ต้องปรับตัวมาก ปรับตัวมากขึ้นคือเรื่อง ระวังแบบขั้นสูงสุด เราใช้คำว่าเราต้องใส่แมสก์ไปทั้งชีวิต? บี: ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจะให้ปลอดภัย โดยทั่วไปถ้าสถานการณ์โควิดมันดีขึ้น ความระวังถามว่าลดน้อยลงไหม ก็ไม่ควรลดน้อยลงนะคะ หายจากวงการ 15 ปี เพราะ น้องโรส ป่วยตังแข็ง? บี: รู้ตอนน้องอายุ 2 เดือน คือเวลาน้องอึจะเป็นสีเทาๆ เหมือนสีควันบุหรี่ มันจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ปัสสาวะออกมาก็จะเป็นสีชาแก่ๆ เราก็พาลูกไปปรึกษาหมอ คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นตับหรือว่าไต พอเช็กปรากฎว่าท่อจากตับไปถุงน้ำดีมันตัน ของเสียจากตับมันไปที่ถุงน้ำดีไม่ได้ มันก็คลั่งอยู่ในตับ พอตับปล่อยของเสียไม่ได้ มันก็ค่อยๆ แข็ง จนในที่สุดมันก็แข็งจนอยู่ไม่ได้ ตอนอัลตร้าซาวด์กับคุณหมอ ภาวะนี้มันแสดงผลได้ไหม? บี: ไม่แสดงค่ะ ณ ตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร ว่าทำไมเด็กถึงเป็น คุณหมอบอกไหมว่าวิธีการรักษาเป็นยังไง? บี: คุณหมอที่รามาตัดสินใจว่าลองผ่าตัด ฉีดสีเข้าไปดู เผื่ออะไรที่บล็อกอยู่มันจะหลุด แล้วก็เส้นเลือดหรืออะไรมันจะได้เปิด ก็ตัดสินใจผ่า เพราะถ้าไม่ผ่าลูกมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี มันไม่มีทางเลือก พอผ่าแล้วมันไม่สำเร็จ คุณหมอบอกว่ามีวิธีเดียวต้องเปลี่ยนตับ แต่ว่าเมืองไทย ณ ตอนนั้น เครื่องไม้ เครื่องมือ ด้วยอะไรก็แล้วแต่ยังทำไม่ได้ คือทำได้ แต่ความประสบความสำเร็จมันยังน้อย คุณหมอก็แนะนำว่าให้เดินทางไปเปลี่ยนที่ต่างประเทศ แต่ว่าคุณหมอไม่มีคอนแน็คชั่น เราต้องติดต่อเอง ก็ได้ติดต่อที่สหรัฐอเมริกา ตอนน้องช็อก เกือบเสียชีวิต เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น?

มีโอกาสได้พบ หมอวราห์ วรเวช ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล รศ. ดร. สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยฯ แนะนำให้รู้จัก พร้อมกระตุ้นความจำสั้นๆ คุณหมอเป็นคนประพันธ์เพลง "เทพธิดาดอย"! เท่านั้นแหละ เนื้อเพลงอันไพเราะก็ผุดออกมาจากห้วงความทรงจำ "มวลเถาวัลย์ป่าใบเขียว ลดคดเลี้ยวพันเกี่ยวคบไม้ใหญ่ ฝูงมัจฉาว่ายแหวกน้ำใส เวียนวนไปภายในสายวารี" ครานั้นจำได้ว่าดีใจ เพราะไม่เคยนึกว่าจะได้พบตัวจริงเสียงจริงนักประพันธ์เพลง เมื่อมีโอกาสได้พูดคุย สิ่งที่ประทับใจหมอวราห์คือความเมตตา สมกับประกอบวิชาชีพแพทย์ เหมาะกับการประกอบวิชาชีพครู หมอวราห์ วรเวช เป็นนามปากกาในการแต่งเพลง ชื่อจริงของหมอวราห์ คือ ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณนายแพทย์วราวุธ สุมาวงศ์ หมอวราห์เป็นแพทย์ทางสูติศาสตร์และนารีเวช จบปริญญาโทจากเมืองนอก เข้าทำงานครั้งแรกที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กระทั่งปี พ. ศ. 2511 ย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลรามาธิบดี หมอวราห์สนใจด้านการแพทย์ศึกษา ดังนั้น แม้จะเกษียณอายุราชการแล้ว แต่ก็ยังคงทำงานด้านนี้อยู่จนถึงปัจจุบัน ปีนี้คุณหมออายุ 82 ปี แต่หากนับผลงานด้านประพันธ์เพลง ถือว่าเป็นปีที่ 51 จากงานเพลงชิ้นแรก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงจัดคอนเสิร์ต 51 ปี งานเพลงหมอวราห์ อิ่มบุญอิ่มใจ ขึ้น เป็นคอนเสิร์ตที่รวมเพลงของหมอวราห์ และยังเชิญชวนให้บริจาคเงินสมทบมูลนิธิรามาธิบดี เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากจน!

  1. หลวง ปู่ พิมพา ปี 35 million
  2. 10 อันดับ สินค้า ส่ง ออก ของ ไทย
  3. รถ บัส สกล อุดร หมด กี่ โมง
  4. Huawei p30 pro ราคา มือ สอง manual
September 25, 2021